1. ธัญพืช
ธัญพืชช่วยให้ร่างกายได้รับโฟเลทสูง โดยเฉพาะธัญพืชไม่ขัดสี หรือที่เราเรียกว่า โฮลเกรน (Whole Grains) ที่มีส่วนประกอบครบถ้วนทั้งเยื่อหุ้มเมล็ด เนื้อเม็ด และจมูกข้าว อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี แร่ธาตุรวมต่างๆ ใยอาหาร และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเรื่องการเสื่อมสภาพของเซลล์ เช่น ข้าวกล้อง เมล็ดถั่วแห้ง งา ข้าวสาลี ข้าวบาเล่ย์ ข้าวโพด ลูกเดือย ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม

เต้าหู้หรือน้ำนมถั่วเหลืองมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดมะเร็งและลดอัตราการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย แต่ต้องไม่รับประทานในปริมาณที่มากเกินไปเพราะจะส่งผลให้เซลล์มะเร็งเติบโตได้ จากฤทธิ์ที่คล้ายกับฮอร์โมนเพศหญิง ดังนั้นจึงควรรับประทานแค่วันละ 1 แก้วเท่านั้น

กระเทียมและหอมมีสารออร์กาโนซัลเฟอร์ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็ง เหนี่ยวนำการเกิดมะเร็งจากสารเคมี ลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้ยังเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดน้ำตาลในเลือดและยังลดคอเรสเตอรอลได้อีกด้วย โดยเฉพาะกระเทียมที่สามารถป้องกันมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พริก มีสารแคปไซซิน ซึ่งช่วยให้เซลล์มะเร็งตายได้ สามารถลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้อีกด้วย และสารแคปไซซินยังพบได้ในพริกไทย นอกจากนี้พริกยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีพริกหรือพริกไทยเป็นส่วนประกอบจะสามารถต้านมะเร็งได้ และฆ่าเซลล์มะเร็งได้

ข่ามีสารเคมีทางธรรมชาติที่ช่วยกระตุ้นเอนไซม์กลูตาไธโน เอส ทรานสเฟอเรส ซึ่งเอนไซม์นี้คือสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการป้องกันมะเร็ง และขิงมีสารจินเนอรอลที่มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นเราควรรับประทานอาหารที่มีขิงและข่าเป็นส่วนประกอบ เพื่อป้องกันการเกิดมะเร็ง นอกเหนือจากนี้ยังมีประโยชน์สำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งและได้รับผลข้างเคียงจากสารเคมีอีกด้วย

ขมิ้นชันมีสารเคอร์คูมินอยด์และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและลดขนาดของเนื้องอก แต่ต้องรับประทานในปริมาณที่พอดี ไม่อย่างนั้นตับอาจจะทำงานหนักเกินไป

การเลือกทานผลไม้ที่ไม่มีรสหวานจัดและมีเส้นใยอาหารสูง สามารถลดการเกิดมะเร็งได้ ด้วยสาร Flavonoid เช่น ฝรั่ง ชมพู่ ทับทิม มะขามป้อม มันเทศ มะละกอ แก้วมังกร หรือผลไม้อื่นๆที่มีสีแดงและส้ม

กลุ่มผักที่มีสีเข้ม ซึ่งสารสีเหล่านี้ได้แก่ ไบโอปฟลาวานอยด์และแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องร่างกายและยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในการทำลายเซลล์มะเร็งอีกด้วย เช่น บีทรูท ผักโขม แครอท มะเขือเทศ

กะหล่ำปลีและกะหล่ำดอก มีสารไฟโตเคมิคัล มีสรรพคุณในการต่อต้านมะเร็งเต้านม โดยทำงานจากการปรับเปลี่ยนฮอร์โมนเอสโตรเจนประเภทที่ส่งเสริมการเกิดมะเร็ง ให้กลายเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ช่วยป้องกันมะเร็ง นอกจากนี้ทั้งกะหล่ำปลีและกะหล่ำดอกยังช่วยยับยั้งการเกิดเซลล์มะเร็งอีกด้วย

เห็ดมีส่วนประกอบสำคัญในการต่อต้านมะเร็ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และต่อต้านการอักเสบ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีประโยชน์ในการต่อต้านเชื้อโรค ชะลอการเติบโตของเนื้อร้าย

ชาเขียวประกอบไปด้วยสารต่างๆที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะ Epigallocatechin Gallate ซึ่งเป็นสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ นอกเหนือจากนี้ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย โดยแนะนำให้ดื่มชาเขียวที่ชงจากใบชา ดื่มประมาณ 1-3 ถ้วยต่อวัน และไม่ควรดื่มชาเขียวสำเร็จรูปบ่อยเกินไป
พืชและผักจากทะเลตามธรรมชาติอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร สารอาหารและแร่ธาตุต่างๆ เช่น สาหร่ายทะเล โดยสารสกัดต่างๆช่วยทำลายและชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ โดยเฉพาะสารฟูคอยแดนที่สกัดจากสาหร่ายทะเลสีน้ำตาลมีฤทธิ์ต้านมะเร็งได้
Source: Clonedbabies
2.เต้าหู้หรือน้ำนมถั่วเหลือง

เต้าหู้หรือน้ำนมถั่วเหลืองมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดมะเร็งและลดอัตราการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย แต่ต้องไม่รับประทานในปริมาณที่มากเกินไปเพราะจะส่งผลให้เซลล์มะเร็งเติบโตได้ จากฤทธิ์ที่คล้ายกับฮอร์โมนเพศหญิง ดังนั้นจึงควรรับประทานแค่วันละ 1 แก้วเท่านั้น
3.กระเทียมและหอม

กระเทียมและหอมมีสารออร์กาโนซัลเฟอร์ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็ง เหนี่ยวนำการเกิดมะเร็งจากสารเคมี ลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้ยังเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดน้ำตาลในเลือดและยังลดคอเรสเตอรอลได้อีกด้วย โดยเฉพาะกระเทียมที่สามารถป้องกันมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.พริก

พริก มีสารแคปไซซิน ซึ่งช่วยให้เซลล์มะเร็งตายได้ สามารถลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้อีกด้วย และสารแคปไซซินยังพบได้ในพริกไทย นอกจากนี้พริกยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีพริกหรือพริกไทยเป็นส่วนประกอบจะสามารถต้านมะเร็งได้ และฆ่าเซลล์มะเร็งได้
5.ขิงและข่า

ข่ามีสารเคมีทางธรรมชาติที่ช่วยกระตุ้นเอนไซม์กลูตาไธโน เอส ทรานสเฟอเรส ซึ่งเอนไซม์นี้คือสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการป้องกันมะเร็ง และขิงมีสารจินเนอรอลที่มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นเราควรรับประทานอาหารที่มีขิงและข่าเป็นส่วนประกอบ เพื่อป้องกันการเกิดมะเร็ง นอกเหนือจากนี้ยังมีประโยชน์สำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งและได้รับผลข้างเคียงจากสารเคมีอีกด้วย
6.ขมิ้นชัน

ขมิ้นชันมีสารเคอร์คูมินอยด์และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและลดขนาดของเนื้องอก แต่ต้องรับประทานในปริมาณที่พอดี ไม่อย่างนั้นตับอาจจะทำงานหนักเกินไป
7.ผลไม้ที่ไม่มีรสหวานจัด

การเลือกทานผลไม้ที่ไม่มีรสหวานจัดและมีเส้นใยอาหารสูง สามารถลดการเกิดมะเร็งได้ ด้วยสาร Flavonoid เช่น ฝรั่ง ชมพู่ ทับทิม มะขามป้อม มันเทศ มะละกอ แก้วมังกร หรือผลไม้อื่นๆที่มีสีแดงและส้ม
8.กลุ่มผักมีสี

กลุ่มผักที่มีสีเข้ม ซึ่งสารสีเหล่านี้ได้แก่ ไบโอปฟลาวานอยด์และแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องร่างกายและยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในการทำลายเซลล์มะเร็งอีกด้วย เช่น บีทรูท ผักโขม แครอท มะเขือเทศ
9.กะหล่ำปลี

กะหล่ำปลีและกะหล่ำดอก มีสารไฟโตเคมิคัล มีสรรพคุณในการต่อต้านมะเร็งเต้านม โดยทำงานจากการปรับเปลี่ยนฮอร์โมนเอสโตรเจนประเภทที่ส่งเสริมการเกิดมะเร็ง ให้กลายเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ช่วยป้องกันมะเร็ง นอกจากนี้ทั้งกะหล่ำปลีและกะหล่ำดอกยังช่วยยับยั้งการเกิดเซลล์มะเร็งอีกด้วย
10.เห็ด

เห็ดมีส่วนประกอบสำคัญในการต่อต้านมะเร็ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และต่อต้านการอักเสบ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีประโยชน์ในการต่อต้านเชื้อโรค ชะลอการเติบโตของเนื้อร้าย
11.ชาเขียว

ชาเขียวประกอบไปด้วยสารต่างๆที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะ Epigallocatechin Gallate ซึ่งเป็นสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ นอกเหนือจากนี้ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย โดยแนะนำให้ดื่มชาเขียวที่ชงจากใบชา ดื่มประมาณ 1-3 ถ้วยต่อวัน และไม่ควรดื่มชาเขียวสำเร็จรูปบ่อยเกินไป
12.พืชและผักจากทะเล
พืชและผักจากทะเลตามธรรมชาติอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร สารอาหารและแร่ธาตุต่างๆ เช่น สาหร่ายทะเล โดยสารสกัดต่างๆช่วยทำลายและชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ โดยเฉพาะสารฟูคอยแดนที่สกัดจากสาหร่ายทะเลสีน้ำตาลมีฤทธิ์ต้านมะเร็งได้
Source: Clonedbabies
0 ความคิดเห็น