Lady Audrey แป้งข้าวจากธรรมชาติ สำหรับสาวๆผิวแพ้ง่าย

สวัสดีค่าา กลับมาพบกับ Beauty Review อีกแล้วว และวันนี้เรากลับมาในส่วนของเครื่องสำอางกันบ้าง หลังจากที่ห่างหายกันไปนานระยะนึงเลย โดยวันนี้ Justinzonedaily มีแป้งมาแนะนำ กับ แป้งLady Audrey ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแป้งนางงามเลยทีเดียว วันนี้เรามีมาแนะนำด้วยกันหลายตัว ลองมาดูกันเลยค่ะ


Lady Audrey

เป็นแป้งข้าว ด้วยนวัตกรรมข้าวไทยต่างๆที่พัฒนามาจากแป้งเด็ก Reiscare ซึ่งเป็นแป้งที่ปลอดภัยต่อเด็ก หลายๆคนคงจะคุ้นชื่อกันบ้างมา บางคนก็คงเคยใช้หรือเห็นรีวิวมาแล้ว ดังนั้นเค้าจึงทำการพัฒนาต่อ เพื่อให้สามารถใช้ได้กับคนที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะวัตถุดิบหลักเป็นแป้งข้าว และเน้นวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาตินั่นเอง นอกเหนือจากนี้ยังปราศจากทัลคัมและน้ำหอม แถมยังไม่มีการทดสอบในสัตว์อีกด้วย ก็คงเรียกได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นธรรมชาติ เป็นแป้งข้าวผิวแพ้ง่ายจริงๆ

และสำหรับที่ได้เกริ่นไว้ว่าเป็นแป้งนางงาม เพราะว่าเป็นแป้งแต่งหน้าประจำกองประกวดหลายกองด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Miss Grand Thailand 2019 และ Miss Mimosa Queen 2019 ซึ่งช่วยเพิ่มความงามให้กับเหล่าสาวงามทั้งหลายนั่นเอง นอกเหนือจากนี้เค้ายังได้รับรางวัลการันตีมากมาย ทั้งรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ, รางวัล Innovation award และยังมีสิทธิบัตรทั้งในประเทศไทย อเมริกา และยุโรปอีกด้วย


Lady Audrey มีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 2 ประเภท

  • Rice Flawless Foundation Powder แป้งข้าวอัดแข็งผสมรองพื้น
  • Rice Loose Powder แป้งข้าวแบบฝุ่น ควบคุมมัน

วันนี้ทาง Justinzonedaily ทำการตำมาทุกตัว ทุกสี เพื่อจะมารีวิวทั้งสองตัวให้ดูกันแบบละเอียดเลย เราค่อยๆดูไปทีละตัวพร้อมๆกันได้เลยจ้าา



Lady Audrey Rice Flawless Foundation Powder


มาดูตัวกล่องภายนอกคือกล่องสวยงามมากแม่ คือสวยหวาน ละมุนจริงๆ มีความชมพู มีความเมทาลิค ต้นข้าวอะไรขนมาหมดจ้า สวยมากจริงๆ ด้านหน้าก็จะมีเขียนไว้ชัดเจนว่าเป็น Rice Flawless Foundation Powder Long-Lasting Oil Control คือเป็นแป้งข้าวอัดแข็ง ผสมรองพื้น ที่สามารถควบคุมความมันได้อย่างยาวนานนั่นเอง


ด้านหลังมีรายละเอียดต่างๆบอกไว้ แต่ว่าเป็นภาษาอังกฤษนะ ไม่มีภาษาไทยเขียนไว้เลย ซึ่งเค้าบอกว่าเป็นแป้งข้าวที่ไม่มีทัลคัม ไม่มีน้ำหอม เป็นแป้งที่น้ำหนักเบาและเนียนเหมือนไหม ให้การปกปิดที่เป็นธรรมชาติตลอดทั้งวัน และปกป้องผิวจากรังสียูวี นอกจากนี้ยังบอกส่วนประกอบต่างๆไว้อีกด้วย


ด้านล่างมีช่องทางการติดต่อบอกไว้ครบเลย ทั้ง Facebook Instagram Website และ Email



ด้านข้างจะมีสติกเกอร์รายละเอียดที่เป็นภาษาไทยติดไว้ รวมถึงบอกเฉดสี ซึ่งเค้ามีด้วยกันทั้งหมด 3 สี
  • เบอร์ 10 Beige สำหรับผิวขาว ที่เน้นความกระจ่างใสและอมชมพู
  • เบอร์ 20 Beige สำหรับผิวขาว-เหลือง ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ
  • เบอร์ 30 Beige สำหรับผิวธรรมดาไปจนถึงผิวสองสี


ตัวตลับด้านในก็คือสวยงามตามท้องเรื่องมาก มีความชมพูเข้ากับตัวกล่องเลย ตลับก็ไม่ได้ใหญ่มาก ก็ถือว่าเป็นขนาดที่พกพาได้ง่าย ตัวตลับเป็นพลาสติกก็จริงแต่แข็งแรงนะคะ ไม่ได้ด้อยเลยนะบอกเลย


ด้านหลังตลับก็มีบอกรายละเอียดคล้ายกับด้านหลังกล่อง รวมถึงบอกเฉดสีไว้อย่างชัดเจนเช่นเดียวกันค่ะ


ด้านในเปิดมาจะมีพัฟแบบฟองน้ำอยู่บนชั้นแรก ตัวพัฟถือว่ามีความนิ่มมากเลยแหละ


เปิดออกมาอีกชั้นด้านในก็จะมีกระจกบานตัวแป้ง กระจกไม่หลอกตา ไซส์พอดีกับตัวตลับ หมดสำหรับการเติมหน้าระหว่างวันหรือว่านอกบ้าน ถ้าจะมองทั่วๆหน้าอาจจะเล็กไปหน่อย ส่วนตัวแป้งจะมีพลาสติกรองไว้ชั้นนึงเป็นการกันเลอะ


มาดูสีแป้งพัฟทั้งสามเฉดสีเปรียบเทียบกัน จากทางซ้ายสุดคือเบอร์ 10 และไล่ไปทางขวาเป็นเบอร์ 20 และเบอร์ 30 ซึ่งเรื่องเฉดสีก็จะเหมือนที่บอกไว้ก่อนหน้านี้นะคะ
  • เบอร์ 10 Beige สำหรับผิวขาว ที่เน้นความกระจ่างใสและอมชมพู เพราะฉะนั้นตัวแป้งจะมีความอมชมพูกว่าสีอื่นๆ
  • เบอร์ 20 Beige สำหรับผิวขาว-เหลือง ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ตัวแป้งจะมีความอมเหลือง แต่ว่าก็ยังขาวอยู่นะ
  • เบอร์ 30 Beige สำหรับผิวธรรมดาไปจนถึงผิวสองสี จะเห็นเลยว่าเป็นสีเข้มสุดแต่ว่ายังเป็นโทนเหลืองนะ ไม่ออกแดงหรือส้ม

มาลองสวอทกันดูนะคะ จากทางซ้ายสุดคือเบอร์ 10 และไล่ไปทางขวาเป็นเบอร์ 20 และเบอร์ 30 เหมือนเดิมนะคะ
ซึ่งสำหรับอินที่เป็นสาวผิวแทนจะเห็นได้ว่าเบอร์ 30 ก็คือเนียนสนิทไปเลย เพราะฉะนั้นสีที่อินเลือกใช้ก็จะเป็นเบอร์ 30 ค่ะ นอกเหนือจากนี้อินอยากให้สังเกตเนื้อแป้งข้าว คือมีความเนียน ละเอียด และบางเบามากๆ


มาลองเทสบนหน้ากันบ้างนะคะ ของอินเลือกใช้เบอร์ 30 อย่างที่ได้บอกไปเนาะ ตัวแป้งพัฟอินแนะนำว่าใช้ตัวพัฟค่อยๆกดให้ทั่วใบหน้า อย่าลากหรือถูนะคะ และสำหรับใครที่มีผิวหน้าที่ค่อนข้างแห้ง แนะนำให้นำพัฟไปชุบน้ำก่อน หรือว่าฉีดสเปรย์ที่พัฟก็ได้ เพื่อลุคที่นวลเนียนขึ้น และไม่ทำให้ผิวหน้าแห้ง และตกร่อง


มาดูผิวหน้าชัดๆนะคะ จะเห็นว่ามีการปกปิดอยู่ในระดับนึงเลยทีเดียว และสีก็ค่อนข้างกลืนกับผิวหน้า ไม่ลอย ไม่เทาเลย ถือว่าเป็นแป้งพัฟอีกตัวที่เจอสีที่เข้ากับสีผิว ใช้แล้วบางเบา ไม่หนักหน้า ผิวหน้าก็ดูเรียบเนียน แถมสีแป้งก็ไปรอดจ้า



ผลลัพธ์

มาดูรูปเปรียบเทียบหลังจากใช้ Lady Audrey Rice Flawless Foundation Powder Long-Lasting Oil Control ทางด้านซ้ายคือผิวหน้าก่อนทาแป้งพัฟ ส่วนด้านขวาและเป็นผิวหน้าหลังจากทาแป้งพัฟ


อินขอแบ่งเป็นข้อๆเพื่อความเข้าใจง่าย และสะดวกต่อการดูผลลัพธ์นะคะ
  • การปกปิด: ถือว่าเป็นแป้งที่ปกปิดได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวนะ ถึงจะไม่ได้เป็น Full-Covered แต่ก็ปกปิดได้ดีเลยแหละทั้งรอยสิว รอยแผลเป็น ก็คือปกปิดได้ดี แถมช่วยเบลอรูขุมขนได้ดีด้วย
  • ควบคุมความมัน: สามารถควบคุมความมันได้ค่อนข้างดีเลย แต่ว่าอินเป็นคนผิวมัน อาจจะมีความมันบ้าง แต่ว่าใช้แป้งฝุ่นเติมระหว่างวัน แต่สำหรับคนที่ผิวแห้งหรือผิวธรรมดาอาจจะไม่มันเลยก็ได้
  • ความเบาบาง: เนื้อแป้งค่อนข้างที่จะเบาสบายเลยแหละ ไม่หนักหน้า บางเบามากค่ะ
  • สีของแป้ง: สีเข้ากับสีผิวได้ดี ไม่วอก ไม่เทา ไม่ลอย และสีไม่ดรอประหว่างวัน ถือว่าเป็นสีเบอร์ 30 เหมาะกับอินมาก อันนี้ปลื้มเป็นส่วนตัว
  • ความอ่อนโยน: หลังจากใช้แล้วถือว่าค่อนข้างดีนะ ไม่แพ้เลย ทั้งๆที่เป็นผิวแพ้ง่ายนะ ไม่ค่อยอุดตันนะ แต่ก็แนะนำให้ใช้ Remover ร่วมด้วย เพื่อความสะอาดหมดจดจะดีกว่า


Lady Audrey Rice Loose Powder 


แป้งตัวนี้จะมีกล่องด้วยกันทั้งหมด 2 สี ทั้งสีฟ้าและสีชมพู ซึ่งเป็นตัวบอกความแตกต่างของแป้งนะคะ มาดูตัวกล่องภายนอกคือกล่องสวยหวาน ละมุนๆ ไม่แพ้กล่องของแป้งพัฟเลย สวยหวานมากจริงๆ ด้านหน้าก็จะมีเขียนไว้ชัดเจนว่าเป็น Rice Loose Powder Long-Lasting Oil Control คือเป็นแป้งฝุ่นคุมมัน

ด้านหลังก็จะมีรายละเอียดบอกเหมือนตัวแป้งพัฟเลย ทั้งส่วนผสม วิธีการใช้งาน และรายละเอียดของตัวแป้งฝุ่น แถมไม่มีภาษาไทยเช่นเดียวกันกับตัวแป้งพัฟเลย


ด้านข้างมีบอกสีของแต่ละสีไว้ทั้งกล่องสีชมพูและกล่องสีฟ้า บอกเลยว่าชอบชื่อสีที่เค้าตั้งมาก มีความหวานและความน่ารักในตัวมากๆเลย
  • เบอร์ 001 Peach Parfait ตัวนี้จะเหมาะสำหรับคนผิวขาว ที่ต้องการความอมชมพูของผิว
  • เบอร์ 002 French Vanilla ตัวนี้จะเหมาะสำหรับคนผิวเหลืองหรือว่าผิวสองสี


ด้านในก็จะมีกระปุกแป้งตามสีกล่องเลยทั้งสีชมพูและสีฟ้า เปิดมาปุ้บก็เจอความน่ารักเลยแหละ


ตัวกระปุกก็คือน่ารักปุกปิกมาก ไซส์กำลังดี ตัวกระปุกก็เป็นพลาสติก น้ำหนักเบา ไม่หนัก แถมพกพาง่าย เหมาะสำหรับพกใส่กระเป๋าไปใช้ระหว่างวันมากเลย


ด้านหลังกระปุกก็มีบอกรายละเอียดคล้ายกับด้านหลังกล่อง รวมถึงบอกเฉดสีไว้อย่างชัดเจนเช่นเดียวกันค่ะ


เปิดฝามาก็มีพัฟให้ด้วย ตัวพัฟก็เป็นขนาดเล็กๆ แต่ว่าใช้งานได้ดีนะ ค่อนข้างนิ่มเลยแหละ เป็นพัฟขนสั้นๆ ชอบที่มีหูของพัฟมาให้ ทำให้ใช้งานได้ง่ายกว่าแบบที่ไม่มีหู


เมื่อยกตัวพัฟขึ้นด้านล่างก็จะเป็นแป้งที่มีตัวที่เหมือนตะแกรงอยู่ และมีสติกเกอร์แปะมาเพื่อป้องกันการหกของแป้งหรือป้องกันแป้งทะลักออกมา


ในส่วนของเนื้อแป้งทั้งสองสีก็คือเนียนละเอียดมาก เนื้อละเอียดมาก แถมบางเบามากทีเดียว และถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าสีแป้งของทั้งสองเฉดจะค่อนข้างต่างกันอย่างชัดเจนทีเดียว


มาลองเปรียบเทียบความแตกต่างของเฉดสีทั้งสองชัดๆดูนะคะ ด้านซ้ายสีชมพูจะเป็นเบอร์ 001 และด้านขวาสีฟ้าคือเบอร์ 002
  • เบอร์ 001 Peach Parfait ตัวนี้แป้งจะออกสีชมพู ออกพีชๆหน่อยๆ เหมาะสำหรับคนผิวขาวหรือว่าต้องการความอมชมพูของผิว
  • เบอร์ 002 French Vanilla ตัวนี้แป้งจะมีความเหลืองมาก คือเหลืองเลยแหละ เหมาะสำหรับคนผิวเหลืองและผิวสองสี แน่นอนว่าอินเลือกใช้เบอร์ 002 ค่ะ


มาดูสวอทกันบ้าง คือเมื่อเกลี่ยแล้วแทบจะดูไม่ออกเลยแหละ จะเนียนไปหมด คิดว่าเป็น Translucent Powder อ้ะ แต่ตัวเนื้อแป้งคือบางเบานะ ไม่หนักผิว ไม่รู้สึกอะไรเลย


มาลองเทสบนหน้ากันบ้างนะคะ ของอินเลือกใช้เบอร์ 002 เป็นแป้งที่ออกสีเหลืองนะคะ ตัวแป้งฝุ่นจริงๆแนะนำให้ใช้คู่กับแป้งพัฟนะคะ อาจจะใช้เติมซ้ำหลังแต่งหน้าเสร็จ หรือว่าเติมระหว่างวันเพื่อซับความมันออกไปก็ได้ ซึ่งจะได้ลุคที่แมทขึ้น แต่ว่าดูซอฟ ดูธรรมชาติ


มาดูผิวหน้าชัดๆนะคะ จะเห็นว่าสว่างขึ้นกว่าเดิมนิดนึง แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องความปกปิดเพิ่มนะคะ แต่ว่าเรื่องความมันคือดีขึ้นแน่นอน แถมทำให้ผิวแมทขึ้น และดูเป็นธรรมชาติขึ้นอีกด้วย แต่ไม่แห้ง ไม่ตกร่องนะคะ แต่ใครที่ผิวแห้งอยู่แล้วแนะนำว่าใช้แปรงปัดเอาก็พอค่ะ และเนื้อก็บางเบามาก ไม่หนักหน้าเลย ดังนั้นอินแนะนำให้ใช้คู่กันเพื่อผิวเนียนสวย คุมมันยาวนานนะคะ


นอกจากนี้ยังสามารถพกแป้งฝุ่นเพื่อไปเติมระหว่างวัน หรือว่าช่วยควบคุมความมันได้เลย ตลับก็เล็ก กระทัดรัด และพกพาง่ายที่สุด ใส่กระเป๋าใบเล็กๆ หรือกระเป๋าคลัชได้เลยค่ะ ช่วยเพิ่มความมั่นใจ สวยพร้อมตลอดทั้งวัน

ไม่มีคำอธิบาย


ช่องทางการติดตามข่าวสาร และสั่งซื้อสินค้า

Facebook: LadyAudreyClub
IG: Ladyaudreyclub IG
Website: www.ladyaudrey.com
Line: @ladyaudreyclub

ไม่มีคำอธิบาย








0 ความคิดเห็น